คู่มือ SEO สำหรับมือใหม่

Jimbe Allen
23/04/2023
คู่มือ SEO สำหรับมือใหม่

Google ให้นิยาม Search Engine Optimization หรือ SEO ว่าคือ การเพิ่มประสิทธิภาพให้เครื่องมือค้นหา โดยสร้าง ปรับปรุงเนื้อหาบนเว็บไซต์ให้มีศักยภาพในการแสดงผลในเครื่องมือค้นหา อีกนัยหนึ่ง SEO สามารถช่วยให้เว็บไซต์ปรากฏบ่อยขึ้นในการค้นหา

เข้าใจไหม? ถ้ายังงง จะอธิบายให้ฟังง่าย ๆ ดังนี้

ในวันอาทิตย์ วันหยุดสุดสัปดาห์ เราอยากจะออกจากบ้านไปหาร้านกาแฟเก๋ ๆ แถวบ้าน นั่งชิล ๆ จิบอเมริกาโนร้อน ๆ พร้อมเค้กอร่อย ๆ แต่เราไม่รู้จะไปที่ไหน มีร้านอะไรอยู่แถวนี้บ้าง เราก็เข้าระบบอินเทอร์เน็ต เข้าเว็บไซต์ Google.com แล้วพิมพ์คำว่า “ร้านกาแฟใกล้ฉัน” ลงไปในช่องค้นหา จากนั้น Google ก็จะแสดงผลการค้นหาออกมาเป็นรายชื่อร้านกาแฟมากมาย พร้อมข้อมูลต่าง ๆ 

จากตัวอย่างด้านบน Search Engine หรือ เครื่องมือค้นหา ก็คือ Google.com หรือเว็บไซต์ที่ทำหน้าที่ค้นหาเรื่องที่เราต้องการ ที่เรารู้จักกันดีนอกจาก Google.com แล้วก็ยังมี Bing.com Yahoo.com

ส่วนคำที่เราพิมพ์ค้นหาว่า “ร้านกาแฟใกล้ฉัน” เรียกว่า Keyword

ทีนี้ผลการค้นหา รายชื่อร้านกาแฟพร้อมข้อมูลต่าง ๆ ของแต่ละร้านที่แสดงผลออกมานั้น รายชื่อเหล่านี้มาจากไหน ทำไมถึงเรียงลำดับในแบบที่เราเห็น บางร้านที่เราเคยขับรถผ่านก็เห็น ๆ ว่าร้านอยู่ใกล้แถวบ้านเราเช่นกัน แต่กลับไม่มีชื่อปรากฎในรายชื่อของผลการค้นหา เพราะอะไร

คำตอบคือ ร้านกาแฟเหล่านั้นทำการ Optimization หรือแปลตรงตัวว่า “การเพิ่มประสิทธิภาพ” ให้กับเว็บไซต์ของตัวเอง

ดังนั้น Search Engine Optimization หรือ SEO คือการทำข้อมูลในเว็บไซต์เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพให้ Search Engine หาเจอ แล้วนำออกมาแสดงผล เมื่อมีคนค้นหาด้วย Keyword ที่ตรงกับเนื้อหาในเว็บไซต์เรา

ทำไมต้องทำ SEO จำเป็นไหม?

ในโลกยุคการตลาดดิจิทัล สื่อออนไลน์เป็นช่องทางการประชาสัมพันธ์หลักของทุกธุรกิจ ประชาชนทุกคน (ลูกค้า) มีสมาร์ทโฟนติดตัว สามารถเข้าถึงสื่อออนไลน์ได้ทุกที่และทุกเวลา ดังนั้นการ SEO จะทำให้ธุรกิจของคุณเป็นที่รู้จัก ให้ลูกค้าเห็นข้อมูลธุรกิจของเราก่อนคู่แข่ง จะเปิดโอกาสในการปิดการขายให้มากกว่า ด้วยต้นทุนที่ต่ำกว่าเมื่อเทียบกับราคาสื่อประชาสัมพันธ์อื่น ๆ

SEO ทำอย่างไร?

การทำ SEO คือ การสร้างเนื้อหาในเว็บไซต์ให้มี Keyword มากพอที่ Search Engine จะสามารถค้นเจอแล้วนำมาแสดงผล ดังนั้นความยากหรือง่ายไม่ได้อยู่ที่วิธีการสร้างเนื้อหาแต่เพียงอย่างเดียว หากแต่อยู่การจะเลือกใช้ Keyword อะไรให้เหมาะสมกับเว็บไซต์หรือหน้าเพจของเราด้วย รวมไปถึงการออกแบบเนื้อหาให้สอดคล้องกับการทำงานของ Search Engine หรือ Google ซึ่งต้องอาศัยความรู้ด้านเทคนิคพอสมควรทีเดียว

มีบริษัทรับทำ SEO อยู่มากมาย ทั้งดีและไม่มี แต่เราควรจะศึกษาทำความเข้าใจ SEO ให้ดีเสียก่อน ค่อยตัดสินใจเลือกจ้างคนอื่นทำ หรือเราจะลงมือทำเอง

Organic Traffic vs. Paid Traffic – ฟรี vs. จ่ายเงิน

การให้ Search Engine แสดงผลเว็บไซต์ของเรามี 2 แบบ แบบฟรี กับ จ่ายเงิน

แบบฟรี ๆ ที่เรียกว่า Organic Traffic ทำโดยการสร้างเนื้อหาในเว็บไซต์โดยใช้ Keyword แบบที่กล่าวไปแล้วข้างต้น แบบนี้เราไม่ต้องเสียเงินโฆษณาให้ Google แต่อาศัยการทำงานสม่ำเสมอและต้องใช้เวลา

อีกแบบเรียกว่า Paid Traffic คือจ่ายเงินซื้อพื้นที่โฆษณาให้ Google เวลาแสดงผล เว็บไซต์ที่จ่ายเงินนี้จะอยู่ในตำแหน่งสูงกว่าเว็บไซต์แบบฟรี โดยจะมีคำว่า “Ad” อยู่ข้างหน้าชื่อเว็บไซต์

จริง ๆ แล้วการทำ Search Engine Optimization หรือ SEO ยังมีรายละเอียดมากกว่านี้ หวังว่าข้อมูลพื้นฐานเหล่านี้จะทำให้การยอดศึกษาเรื่อง SEO ให้ลึกและกว้างต่อไปง่ายขึ้น และสามารถนำไปปรับไปกับเว็บไซต์ของคุณได้

เลือกบริษัทให้บริการทำ SEO ยังไง ดันธุรกิจให้ไกลกว่าที่คิด

Jimbe Allen
08/04/2023
เลือกบริษัทให้บริการทำ SEO ยังไง ดันธุรกิจให้ไกลกว่าที่คิด

บริษัทที่ต้องการดันอับดับเว็บไซต์ให้ติดท็อปบนหน้าแสดงผล อาจจะต้องใช้บริการบริษัททำ SEO ที่มีอยู่มากมายหลายเจ้าในตลาด การทำ SEO ให้มีประสิทธิภาพมีเทคนิคหลายอย่างที่สามารถหยิบยกมาใช้ได้ โดยผู้ทำ SEO ควรมีความเชี่ยวชาญด้านนี้อย่างลงลึก แต่จะรู้ได้ยังไงว่าใครเก่งจริงหรือไม่จริง นักธุรกิจคงสับสนว่าจะเลือกใช้บริการของบริษัทไหนดี สิ่งนี้สามารถพิจารณาได้จากหลายปัจจัยที่จะนำมาอธิบายดังต่อไปนี้

  1. เลือกบริษัทที่เน้นเรื่องการพัฒนาธุรกิจ

ถ้าเจอบริษัทที่โฆษณาแค่เรื่องอันดับอย่างเดียว ต้องตัดทิ้งออกไปได้เลย บริษัท SEO ที่ดีต้องเน้นพัฒนาธุรกิจเพื่อดึงดูดผู้ใช้งานให้เข้ามาเป็นลูกค้าต่างหาก เพราะต่อให้อันดับดี แต่ไม่สามารถสร้างโครงสร้างของเว็บไซต์ให้สามารถดึงดูดใจลูกค้าเอาไว้ให้อยู่หมัดได้ สุดท้ายยอดขายที่สร้างรายได้จะไม่เกิดในท้ายที่สุด

  1. ไม่ทำ Black Hat SEO

ต้องสอบถามอย่างชัดเจน และควรหารีวิวของบริษัทให้ละเอียดว่ามีการสอดไส้การทำ Black Hat SEO เช่น การยัดคีย์เวิร์ดที่ไม่มีคุณภาพ การซ่อนคีย์เวิร์ดเอาไว้ การใส่สแปมหรือไม่ เพราะสิ่งนี้เป็นการทำ SEO ที่ไม่ยั่งยืน ถึงลำดับจะขึ้นได้เร็ว แต่สุดท้ายจะถูกลงโทษจาก Search Engine จนไม่ปรากฎบนลำดับการค้นหาในท้ายที่สุด ถึงการทำ SEO แบบตรงไปตรงมาจะจุกจิก ยุ่งยาก และใช้เวลานาน แต่สิ่งเหล่านั้นคุ้มค่ากับการลงทุนอย่างแน่นอน

  1. มีการทำสัญญาที่ชัดเจน

ไม่ว่าจะตกลงทำการซื้อขายบริการกับใครต้องกำหนดให้มีการทำสัญญาเป็นลายลักษณ์อักษรอย่างถูกต้องตามกฎหมาย เพราะบริษัททำ SEO นั้นเปิดง่าย และไม่ได้มีการตรวจสอบที่เข้มงวดนัก จึงอาจมีมิจฉาชีพแฝงตัวเข้ามา จนเจ้าของธุรกิจอาจโดนหลอกลวงจนเสียผลประโยชน์ได้

  1. อย่าเลือกบริษัทที่มีการการันตีอันดับ

คนทำ SEO ที่มีคุณภาพไม่สามารถการันตีอันดับได้อย่างแน่นอน ถ้ามีบริษัทไหนพูดว่าสามารถดันเว็บให้ขึ้นสู่อันดับ 1 ได้ ต้องสงสัยไว้ก่อนเลยว่าทำ Black Hat SEO หรือเปล่า ขอย้ำอีกครั้งว่าอย่าให้ความสำคัญกับอันดับมากกว่าคุณค่าของธุรกิจ ควรเลือกใช้แนวทางที่ดึงดูดลูกค้าคุณภาพเข้ามาซื้อสินค้าจะดีกว่า

  1. อย่าเลือกบริษัทที่โฆษณาว่าทำให้ติดอันดับได้ในเวลา 1-2 เดือน

การทำ SEO ให้ประสบผลสำเร็จอย่างตรงไปตรงมา เป็นสิ่งที่ต้องใช้เวลาทำอย่างค่อยเป็นค่อยไป เพราะการพัฒนาเว็บไซต์ให้ตอบโจทย์การทำ SEO มีรายละเอียดมากมายหลายอย่าง เนื้อหาคุณภาพที่ใช้ทำ SEO ไม่ได้สร้างขึ้นง่าย ๆ ภายใน 1-2 วัน แถมเนื้อหาที่ใช้ยังต้องมีปริมาณมากพอสมควร ดังนั้นต้องขอให้ผู้ประกอบการใจเย็น ๆ ไม่อย่างนั้นอาจตกเป็นเหยื่อของพวกทำ Black Hat SEO ได้

แนวทางการเลือกบริษัททำ SEO ที่กล่าวไปเป็นข้อสังเกตเบื้องต้น ขอให้เจ้าของธุรกิจหาข้อมูลดี ๆ และนำวิธีการเหล่านี้ไปเป็นแนวทางในการเลือกจ้างบริษัททำ SEO ที่มีคุณภาพ ไหน ๆ จะลงทุนทำการตลาดออนไลน์ทั้งทีขอให้เลือกจากทั้งคุณภาพทางเทคนิคและคุณภาพของเนื้อหา จึงจะสามารถดันธุรกิจให้เติบโตได้อย่างใจฝัน 

ทำความรู้จักส่วนขยาย Firefox สำหรับ SEO แบบไหนดีที่สุด

Jimbe Allen
30/03/2023
ทำความรู้จักส่วนขยาย Firefox สำหรับ SEO แบบไหนดีที่สุด

กลยุทธ์การตลาดในการแข่งขันการทำ SEO นับวันยิ่งค่อย ๆ มีอัตราการแข่งขันที่สูงมากขึ้นเรื่อย ๆ ไม่ว่าจะด้วยการเปลี่ยนแปลงอัลกอริทึมของ Google ที่เริ่มออกทะเลไปไกลมากขึ้นทุกวันเพื่อให้คนทำต่างต้องปรับตัวเพื่อให้เท่าทันได้ในทุก ๆ วันและในวันนี้เราก็มีส่วนขยายเจ๋ง ๆ จาก Mozilla Firefox มานำเสนอเพื่อเป็นทางเลือกแก่ใครที่กำลังต้องการกลยุทธ์ในรูปแบบอื่น ๆ ในการนำไปปรับใช้ให้เข้ากับการทำ Search Engine Optimization ในการทำธุรกิจของคุณได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ

รู้หรือไม่ว่าตั้งแต่ต้นเดือนพฤษภาคม 2565 เป็นต้นมา Mozilla Firefox ได้กลายมาเป็นเบราว์เซอร์ที่มีส่วนแบ่งของตลาดเบราว์เซอร์มากถึง 7.66 เปอร์เซ็นต์หรือเทียบได้ก็คือการได้รับเป็นที่นิยมสูงเป็นอันดับที่ 3 ของโลกในช่วงขณะนี้และถือว่าเป็นอีกหนึ่งทางเลือกอันน่าสนใจสำหรับใครที่กำลังต้องการอยากปรับปรุงเว็บไซต์ SEO เพื่อให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้นด้วยการใช้ส่วนขยายของ Firefox นั่นเอง แต่จะมีส่วนขยายในรูปแบบไหนบ้างนั้น เดี๋ยวเราลองไปเช็คอ่านกันเลย

1. Ahrefs SEO Toolbar 

มาเริ่มที่ตัวแรกกันเลยกับส่วนขยายของ Mozilla Firefox ด้วย Ahrefs SEO Toolbar ที่มีคนในวงการต่างบอกเป็นเสียงการันตีเดียวกันว่าใช้ดีมากๆ และยังมีความสามารถในการนำเสนอตัวชี้วัด SEO จุดที่สำคัญที่สุดในส่วนของเบราว์เซอร์เพื่อให้เข้าถึงหน้าหลักกับตัววัดคำหลักได้ทันท่วงทีพร้อมกับยังมีการจัดประเภท URL ( UR ) อันเป็นเรื่องของปริมาณการค้นหาทั่วไปและอื่น ๆ อีกมากมายเลยทีเดียว

2. SEOquake 

ในส่วนขยายลำดับที่ 2 ของ Mozilla Firefox ที่อยากนำเสนอก็ต้องลองใช้ด้วยชุดนี้เลยกับ SEOquake อีกหนึ่งส่วนขยาย SEO ฟรีที่จะมีให้เมตริก SEO ที่มีความสำคัญในหน้าเว็บไซต์แบบเฉพาะพร้อมกับเครื่องมือมากประโยชน์อีกหลากหลายตัวช่วยดังเช่นเครื่องมือตรวจสอบเอสอีโอ, รายงานเรื่องความหนาแน่น Keyword หรือจะเป็นเรื่องของการวิเคราะห์ลิงก์ทั้งภายในหรือภายนอก ซึ่งหากคุณติดตั้ง SEOquake บน Firefox ก็สามารถทำได้ทันที

3. Foxy SEO Tool

และในส่วนขยายลำดับที่ 3 ของ Firefox ก็ต้องนี่เลยกับ Foxy SEO Tool อันเป็นโปรแกรมพิเศษที่จะให้คุณสามารถเข้าถึงฟังก์ชันในเรื่องของ Search Engine หรือเครื่องมือการค้นหาและการวิเคราะห์ยอดปริมาณของการใช้งานเว็บไซต์แบบไวปานสายฟ้าดังเช่น Compete, Alexa และ Semrush เพราะฉะนั้นเครื่องมือเหล่านี้มีความสามารถที่จะช่วยให้ผู้ใช้สามารถตรวจสอบรายชื่อเว็บไซต์ใน directory สำคัญได้ดังเช่นการอ้างอิงข้อมูล Twitter หรือ Facebook นั่นเอง

4. Link Research SEO Toolbar

ลำดับสุดท้ายของส่วนขยาย Firefox กับ Link Research SEO Toolbar ที่มีประโยชน์ให้ผู้ใช้สามารถเช็คดูเมตริกเอสอีโอพร้อมกับยังสามารถให้ดูจำนวนลิงก์ย้อนกลับส่วนที่มีหน้าหรือเช็คดูการเปลี่ยนแปลงในจำนวนลิงก์ได้อีกด้วยบอกได้เลยว่า Link Research SEO Toolbar มีความสำคัญต่อการทำเอสอีโอเป็นอย่างมากเลยเช่นกัน

สำหรับใครที่กำลังต้องการกลยุทธ์ใหม่ ๆ หรือรูปแบบในการทำ SEO ในมุมที่แตกต่างจากเดิมรับรองได้ว่าการใช้ประโยชน์จากส่วนขยายต่าง ๆ ของ Mozilla Firefox จะเป็นอีกตัวช่วยให้ธุรกิจคุณสามารถพัฒนาต่อไปได้และที่สำคัญบางส่วนขยายยังสามารถใช้ฟรีได้อีกด้วย

เผยเคล็ดลับทำ On Page SEO ให้ปัง มีคุณภาพจากข้างใน เพื่อผลลัพธ์การจัดอันดับจาก Google

Jimbe Allen
16/03/2023
ผยเคล็ดลับทำ On Page SEO ให้ปัง มีคุณภาพ

เป็นที่รู้กันว่าการที่จะทำเว็บไซต์ให้ติดอันดับหน้าค้นหาของ SEO จำเป็นที่จะต้องทำเว็บให้มีคุณภาพ แต่จะทำอย่างไรให้มีคุณภาพและถูกหลักอัลกอริทึมของ Google วันนี้เราจะมาเผยเคล็ดลับการทำ SEO On Page ให้ทุกคนสามารถนำไปปรับใช้ เพื่อที่จะให้หน้าเพจของตนเองติดอันดับการค้นหาได้

On Page SEO คืออะไร

On Page SEO คือ การปรับแต่งเว็บไซต์ตามข้อกำหนดและแนวทางให้ตรงตามเงื่อนไขของ Google เพื่อให้สามารถติดอันดับหน้าค้นหา โดยมีด้วยกัน 7 ข้อหลัก ๆ ได้แก่

  1. การเลือกใช้รูปภาพ Original

การทำเพจหรือเว็บไซต์จำเป็นที่จะต้องมีรูปภาพเป็นส่วนประกอบ เพื่อใช้ในการดึงดูดคนดู โดยเฉพาะรูปภาพที่เป็น Original มีความสวยงาม คมชัด ที่เกี่ยวข้องกับคอนเทนต์ในเว็บไซต์ ไม่ใช่รูปภาพจากการ copy หรือละเมิดสิทธิ์ ก็จะช่วยเพิ่มโอกาสในการค้นหามากที่สุด เพราะหมายถึงเว็บที่ทำเป็นต้นฉบับและมีความน่าเชื่อถือนั่นเอง

2. เขียนบทความให้มีเนื้อหาครอบคลุมและเกี่ยวกับสินค้าภายในเพจ

การเขียนบทความในเชิงความรู้หรือให้ข้อมูลสามารถที่จะสร้าง Traffic ให้กับเว็บไซต์ได้ โดยเฉพาะบทความที่ครอบคลุมทุกรายละเอียดของการแก้ไขปัญหาต่าง ๆ และมี keyword ที่ตรงประเด็นกับเรื่องราวที่นำเสนอ ก็จะยิ่งช่วยให้ SEO เกิดการโปรโมทเพจหรือเว็บไซต์ในลำดับต้น ๆ ได้

3. ลดความหน่วง เพิ่มความเร็ว

การใช้สคริปต์ เครื่องมือต่าง ๆ เพื่อนำเสนอให้เพจมีความสวยงามและน่าสนใจถือเป็นสิ่งที่ดี แต่ถ้าหน้าเพจมีการโหลดที่ช้า ไม่ทันต่อความต้องการของคนดูในปัจจุบัน เป็นไปได้ว่าคนดูจะทำการเลื่อนผ่านหรือคลิกหนี้ให้ไวและนี่เป็นส่วนหนึ่งของ SEO ที่ใช้ในการประเมินคุณภาพของเว็บไซต์ ดังนั้น ความปรับแต่งฟีเจอร์ที่จำเป็นและสำคัญจริง ๆ มากกว่าที่จะใส่ลูกเล่นพิสดารจนเว็บไซต์ไม่สามารถโหลดหน้าเพจได้หรือโหลดได้ก็ใช้เวลานาน

4. ตรวจสอบ Link ภายในให้สามารถใช้งานได้

คงไม่ดีแน่หากลิงก์ภายในคลิกแล้วไม่ไปตามหน้าเพจที่ต้องการ ก่อนที่จะทำการอัปโหลดเว็บไซต์ทุกครั้ง ควรตรวจสอบลิงก์ต่าง ๆ ที่เชื่อมโยงถึงกัน หากพบว่าคลิกแล้วไม่สามารถโหลดหน้าเพจที่เชื่อมถึงกันได้ ควรรีบแก้ไขโดยด่วน ก่อนที่ Bot จะไม่ประเมินคะแนน 

5. รองรับการใช้งานทุก Device

คงปฏิเสธไม่ได้ว่าปัจจุบันคนใช้อินเทอร์เน็ตผ่านมือถือมากกว่าคอมพิวเตอร์หรือแล็ปท็อป เพราะมีความสะดวก พกพาง่าย การที่จะทำเว็บไซต์จะต้องทำและออกแบบให้สามารถรองรับการใช้งานผ่านมือถือด้วย 

6. การเลือกใช้ Key Word และ Lsi Key word ที่เหมาะสม

การเขียนบทความ คอนเทนต์ต่าง ๆ ลงเว็บไซต์การเลือกใช้ Key word เพียงลำพังอาจจะไม่เพียงพอ เพราะ Bot ที่ทำหน้าที่ในการตรวจสอบเว็บไซต์มีความฉลาดขึ้นและเข้าใจถึงบริบทของ Key word ต่าง ๆ ได้ดี การให้คำอธิบายเกี่ยวกับ Keyword ที่เกี่ยวข้อง หรือให้ข้อมูลเพิ่มเติมเพื่อขยายคอนเทนต์ที่ทำอยู่ อย่างเช่นการทำหน้าเว็บผลบอล เราก็อาจจะมีKey word ในนการค้นหาคำ เช่น โปรแกรมบอล เป็นต้น ก็จะช่วยให้ Bot สามารถประมวลผลและเข้าใจในสิ่งที่คนทำเว็บนำเสนอได้ เช่น หากเราทำเว็บเกี่ยวกับมือถือแบรนด์หนึ่ง โดยใช้ Key word ว่า Apple อาจหมายถึงผลไม้ หรือ สมาร์ทโฟนชื่อดัง ก็เป็นได้ หากผู้นำเสนอไม่ขยายความคำว่า Apple  Bot อาจมองดูว่าเว็บไซต์ดังกล่าวเป็นเว็บขายผลไม้ก็เป็นได้และการใช้ LSI ยังสามารถลดการสแปมของ Key word ลงด้วย

การทำ On Page Seo นับเป็นหนึ่งในหัวใจหลักของการทำเว็บไซต์ เพื่อช่วยให้การจัดอันดับหน้าค้นหาของ Google ได้ ยิ่งถ้าหากทำออกมาได้ดีมีคุณภาพ บางครั้งการโปรโมทเว็บหรือซื้อโฆษณาอาจไม่จำเป็นก็ได้

กลยุทธ์การทำ SEO รักษาลูกค้าเก่าที่ธุรกิจควรรู้

Jimbe Allen
13/04/2022
กลยุทธ์การทำ SEO รักษาลูกค้าเก่าที่ธุรกิจควรรู้

ธุรกิจสมัยนี้ควรเรียนรู้เรื่องการทำ SEO หรือ Search Engine Optimization เพื่อรักษาฐานลูกค้าเก่าเอาไว้ เป็นการรักษาส่วนแบ่งตลาดได้อย่างเหนียวแน่น ไม่มุ่งเน้นเฉพาะมองหาลูกค้าใหม่อย่างเดียว เพราะไม่มีอะไรรับประกันว่าคนที่มองเห็นและเข้ามาทำความรู้จักสินค้าหรือแบรนด์จะตัดสินใจซื้อตั้งแต่ครั้งแรกที่เข้ามาในเว็บไซต์

ทราบกันดีว่าการทำ SEO เป็นเทคนิคการโปรโมทเว็บไซต์ให้ติดอันดับการค้นหาลำดับแรก ๆ ใน Google ส่งผลให้เว็บไซต์เป็นที่รู้จักแพร่หลายมากขึ้นและยังมีโอกาสเสนอขายสินค้าหรือบริการได้ก่อนคู่แข่งในตลาดเดียว การทำตลาดออนไลน์ถือเป็นช่องทางการโฆษณาที่มีค่าใช้จ่ายน้อยกว่าโฆษณาแบบดั้งเดิม ซึ่งการโฆษณาดึงดูดลูกค้าใหม่นั้นมีค่าใช้จ่ายมากกว่าการรักษาลูกค้าเดิมมากกว่า 5 เท่า ธุรกิจใหม่ที่ยังมีงบประมาณไม่มากนักควรเน้นการเพิ่มโอกาสขายจากลูกค้าเก่าเป็นแรงขับเคลื่อนธุรกิจให้เดินหน้าไปเรื่อย ๆ 

เหตุผลที่ธุรกิจจำเป็นต้องทำ SEO ในเว็บไซต์เพื่อให้โปรโมทแบรนด์หรือสินค้าทางออนไลน์ได้ตลอด 24 ชั่วโมง มีผลให้แบรนด์และสินค้าเป็นที่รู้จักในวงกว้างมากขึ้น ในปัจจุบันธุรกิจส่วนใหญ่ทำ SEO โดยพุ่งเป้าไปที่การหาลูกค้าใหม่จำนวนมากด้วยความเข้าใจว่าหากเว็บไซต์ไต่อันดับดีขึ้นและแสดงผลให้ผู้ค้นหาเห็นอย่างรวดเร็วจะเป็นการเสนอตัวให้ลูกค้าได้เห็นก่อนคู่แข่ง รวมถึงทำให้เว็บไซต์มีความน่าเชื่อถือและได้รับการยอมมากขึ้น ซึ่งเป็นแรงสนับสนุนการตัดสินใจซื้อของลูกค้าในอนาคต

แต่เว็บไซต์ที่หาเจอง่ายไม่ใช่ปัจจัยอย่างเดียวที่ส่งผลต่อการตัดสินใจซื้อของลูกค้า โดยเฉพาะลูกค้าใหม่ที่ยังไม่มีประสบการณ์การซื้อกับเว็บไซต์นั้น ๆ มาก่อนอาจจะเห็นว่าลำดับของเว็บไซต์อาจไม่หนักแน่นพอ กลยุทธ์การทำ SEO ควรเน้นการรักษาความสัมพันธ์กับลูกค้าเก่าไว้ก่อน ถ้าลูกค้ามีความจงรักภักดีต่อแบรนด์แล้วไม่เพียงจะสานต่อความสัมพันธ์อุดหนุนกันไปนาน ๆ เท่านั้น แต่ยังบอกต่อและแชร์ข้อมูลดีๆ เพื่อให้ลูกค้าใหม่เข้ามาซื้อสินค้าหรืออุดหนุนบริการมากขึ้นด้วย

แน่นอนว่าการมองหาลูกค้าใหม่จะเพิ่มฐานลูกค้าให้ธุรกิจเติบโตมากยิ่งขึ้น แต่การทำ SEO มักจะเห็นผลช้า กว่าจะเพิ่มยอดขายได้อาจใช้เวลานานหลายเดือน ธุรกิจจึงไม่ควรละเลยเรื่องการรักษาความสัมพันธ์ที่ดีกับลูกค้าเก่าซึ่งเป็นกลุ่มที่มีโอกาสกลับมาซื้อซ้ำได้อีก ถือเป็นการเดินเกมธุรกิจที่ปลอดภัยและเหมาะกับสภาวะเศรษฐกิจในปัจจุบันซึ่งคนส่วนใหญ่พยายามรัดเข็มขัดไม่จับจ่ายใช้สอยฟุ่มเฟือย ลูกค้าเก่าที่ใช้สินค้าหรือบริการมาแต่แรกเห็นถึงคุณภาพและประสิทธิภาพมีความจงรักภักดีต่อแบรนด์จะยังคอยอุดหนุนกันอยู่เสมอ

การทำการตลาดออนไลน์ด้วย SEO โดยปกติแล้วจะเริ่มเห็นผลลัพธ์ค่อนข้างช้าแต่คุ้มค่าในระยะยาว ธุรกิจสามารถใช้ประโยชน์จากการทำ SEO ได้หลายทาง ไม่เฉพาะทำให้ลูกค้าใหม่รู้จักเท่านั้น แต่ทำให้ลูกค้าดั้งเดิมพอใจ มีความรู้สึกภักดีต่อองค์กรในระยะยาวและรอสินค้าใหม่ที่จะเปิดตัวออกมาในอนาคต ไม่เพียงควักกระเป๋าซื้อมากขึ้นแต่ยังจะอุดหนุนอย่างต่อเนื่องไปอีกนานด้วย ธุรกิจจะไม่สูญเสียลูกค้าเก่าให้คู่แข่งไปอย่างง่ายดายนั่นเอง

การทำ SEO อย่างถูกต้องให้ประโยชน์อย่างไร

Jimbe Allen
25/02/2022
การทำ SEO อย่างถูกต้องให้ประโยชน์อย่างไร

หลายคนเคยได้ยินเรื่องราวของการทำ SEO หรือ “Search Engine Optimization” เพื่อให้เว็บไซต์ถูกพบเห็นง่ายขึ้นบนอินเทอร์เน็ต วิธีการทำ SEO ควรสร้างเว็บไซต์อย่างถูกต้องตามกฎกติกาของเครื่องมือค้นหาเท่านั้นจึงจะติดอันดับที่ดีได้ ไม่เช่นนั้นแล้วการทำผิดกฎอาจส่งผลเสียต่อเว็บไซต์และถูกแบนได้ในอนาคต เมื่อการทำ SEO เป็นไปอย่างถูกต้องจะให้ประโยชน์ดังนี้

-การทำ SEO ที่เป็นมาตรฐานช่วยให้ผู้ค้นหาเข้าถึงเว็บไซต์ได้ง่าย ในยุคปัจจุบันธุรกิจมีการแข่งขันสูง แต่ผู้ประกอบการรายย่อยไม่มีงบประมาณการโฆษณาแบบดั้งเดิม จึงเบนเข็มมาทำเว็บไซต์และโฆษณาทางโซเชียลมีเดียซึ่งใช้ต้นทุนต่ำ แต่เข้าถึงลูกค้าเป้าหมายได้ดีกว่าเดิม ทำให้ชื่อเสียงของแบรนด์เป็นที่รู้จักแพร่หลาย หากการทำ SEO ช่วยให้เว็บไซต์ติดอันดับต้น ๆ ของเครื่องมือค้นหา จึงไม่ใช่เรื่องยากที่จะโชว์ธุรกิจให้เห็นกันมากขึ้นเพราะเว็บไซต์เข้าถึงได้ตลอด 24 ชั่วโมงสามารถโปรโมทธุรกิจได้ทุกเวลา

-การทำ SEO อย่างถูกต้องทำให้เนื้อหาบทความน่าอ่านและมีประโยชน์ โดยเฉพาะการแทรกคำค้นหาหรือคีย์เวิร์ดที่เกี่ยวข้องอย่างเหมาะสม เมื่อผู้คนมีความสนใจค้นหาสิ่งที่ต้องการไม่ว่าจะเป็นข้อมูลสินค้าหรือบริการก็ตาม จะค้นพบเว็บไซต์ของคุณได้อย่างรวดเร็วและง่ายดาย ใครเสนอขายได้ก่อนย่อมมีความได้เปรียบคู่แข่งในประเภทธุรกิจเดียวกัน นอกจากนี้ต้องมั่นใจว่าผู้ค้นหาจะสามารถเข้าเว็บไซต์อ่านข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับสินค้าและบริการได้ทุกเวลา

-ถึงจะมีผู้คลิกเข้าชมจำนวนมาก มีโอกาสสร้างลูกค้าใหม่แต่ไม่ได้หมายความจะเพิ่มโอกาสขายได้มากขึ้นเสมอไป ยังขึ้นอยู่กับสินค้า ราคา และข้อมูลในเว็บไซต์ด้วย หากคุณภาพสินค้าและราคาไม่แตกต่างกัน การทำ SEO เลือกใช้บทความที่มีเนื้อหาเป็นประโยชน์ ทันสมัย ไม่ซ้ำกับเว็บไซต์อื่น รวมทั้งเลือกคีย์เวิร์ดอย่างเหมาะสมทำให้ค้นพบข้อมูลตรงตามต้องการ ผู้ค้นหาเกิดความประทับใจและกลับมาใช้งานซ้ำอีกซึ่งส่งผลดีต่อการประเมินเว็บไซต์ทำให้ติดอันดับที่ดีอย่างต่อเนื่อง

-เมื่อการทำ SEO ตอบโจทย์ความต้องการของผู้ใช้งาน เป็นไปได้ที่ผู้ใช้จะกลายมาเป็นลูกค้าใหม่ในอนาคต การกลับมาใช้งานซ้ำอีกหมายถึงเป็นโอกาสที่จะปิดยอดขายได้อีก ทำให้เกิดการซื้อซ้ำสร้างประโยชน์ให้เว็บไซต์มีความน่าเชื่อถือ แสดงถึงความพอใจในข้อมูลและบริการของเว็บไซต์ รวมถึงความพอใจในตัวสินค้าและราคา สามารถส่งผลต่อการตัดสินใจซื้อสินค้าของลูกค้ารายใหม่ ๆ ที่เข้ามาเยี่ยมชมมากขึ้น

ประโยชน์ที่ได้จากการทำ SEO มีมากมาย สิ่งที่เด่นชัดคือเป็นเครื่องมือโฆษณาที่ไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายมาก เหมาะสำหรับธุรกิจที่เพิ่งจะเริ่มต้นมีโอกาสเปิดตัวแบรนด์ให้เป็นที่รู้จักในวงกว้างท่ามกลางการแข่งขันในโลกธุรกิจออนไลน์ การเสนอสินค้าและบริการให้ลูกค้าเป้าหมายได้เห็นก่อนคู่แข่งไม่เพียงทำให้ลูกค้าและมีโอกาสปิดยอดขายได้เท่านั้น แต่ความประทับใจในเว็บไซต์จะช่วยเรื่องการจดจำแบรนด์ สร้างความน่าเชื่อถือ ทำให้เป็นที่ยอมรับและรู้จักอย่างกว้างขวาง

ประโยชน์ของการทำ SEO ที่ไม่ควรมองข้าม

Jimbe Allen
13/01/2022
ประโยชน์ของการทำ SEO ที่ไม่ควรมองข้าม

การทำ SEO ถือเป็นสิ่งสำคัญมาก ๆ สำหรับเจ้าของกิจการที่ต้องการทำการตลาดออนไลน์ โดยเฉพาะผู้ประกอบการรายใหม่ที่ต้องการก้าวเข้ามามีบทบาทให้เป็นที่รู้จักกันมากขึ้นหรือส่วนแบ่งทางการตลาด โดยวันนี้จะมาแนะนำถึงประโยชน์ของการทำ SEO ที่ผู้ประกอบการไม่ควรมองข้ามอย่างยิ่ง ซึ่งจะมีประโยชน์อย่างไรบ้างนั้นไปดูกันเลย

1.ลดค่าใช้จ่ายในการทำการตลาด

ปัจจุบันการทำ SEO มีช่องทางให้เลือกมากมายผ่านสื่อออนไลน์และที่สำคัญฟรี! ซึ่งจะช่วยให้ผู้ประกอบการลดค่าใช้จ่ายในการลงโฆษณาลงไปได้ หรือการทำ SEO ผ่านเว็บไซต์ของตนเอง ก็จะช่วยให้การค้นหาของลูกค้าได้ง่ายมากยิ่งขึ้น

2.สร้างคอนเทนต์ได้หลากหลาย

เมื่อผู้ประกอบการมีเว็บไซต์และสื่อออนไลน์เป็นของตนเอง สามารถที่จะสร้างคอนเทนต์ให้กับลูกค้าได้ติดตามได้หลากหลายมากยิ่งขึ้น ไม่ว่าจะเป็น บทความ, การรีวิวสินค้าผ่านวีดีโอหรือการนำเสนอข้อมูลสินค้าจากประสบการณ์ผู้ใช้งานจริง 

3.เป็นพื้นที่ในการโปรโมทสินค้าตลอดเวลา

เมื่อทุกอย่างอยู่บนโลกออนไลน์ การทำ SEO เพื่อโปรโมทสินค้าจึงทำหน้าตลอด 24 ชั่วโมง แบบไม่มีหยุดพัก สามารถสร้างความได้เปรียบกับคู่แข่งที่ต้องไปจ้างบริษัทโฆษณา ที่ไม่สามารถโปรโมทสินค้าให้ได้ตลอด 24 ชั่วโมง

4.สร้างความน่าเชื่อถือ

เมื่อคุณทำ SEO บนเว็บไซต์ของตนเองก็จะทำให้คุณได้รับความน่าเชื่อถือจากบรรดาลูกค้าหรือผู้ที่สนใจเข้ามารับชมผ่านทางเว็บไซต์ ยิ่งเว็บไซต์ได้รับความนิยมและมีการตอบรับจากลูกค้าจำนวนมาก ยิ่งสร้างความน่าเชื่อถือให้แก่ลูกค้าหน้าใหม่ที่เข้ามาเยี่ยมชมได้

5.สร้างฐานลูกค้าและขยายฐานลูกค้าเพิ่มขึ้น

หลังจากที่เว็บไซต์และตัวสินค้าได้รับความนิยมเท่ากับว่าคุณมีการสร้างฐานลูกค้าไปในตัว หากมีการบอกปากต่อปากหรือค้นหามากยิ่งขึ้นผ่าน Search Engine ก็จะเป็นการขยายฐานลูกค้าใหม่เพิ่มมากขึ้นไปในตัว ไม่เฉพาะแต่ในลูกค้าภายในประเทศเท่านั้น แต่สามารถขยายฐานลูกค้าออกไปไกลยังต่างประเทศได้อีกด้วย

6.ใช้เป็นพื้นที่ในการประชาสัมพันธ์ของธุรกิจ

ไม่เพียงแต่การโปรโมทเพื่อขายสินค้าได้ตลอดเวลาเท่านั้น แต่ยังเป็นพื้นที่ในการประชาสัมพันธ์ ข้อมูล ข่าวสารเกี่ยวกับธุรกิจที่กำลังทำอยู่หรือใช้เป็นพื้นที่ในการแจ้งข่าว รับสมัครงาน เพื่อให้ผู้ที่สนใจสามารถเข้ามาร่วมกิจกรรมหรือสมัครงานได้ โดยไม่มีค่าใช้จ่ายใด ๆ ทั้งสิ้น

ด้วยคุณประโยชน์ของการทำ SEO อย่าลืมที่จะทำ SEO ให้กับเว็บไซต์ธุรกิจของตนเอง เพื่อให้ธุรกิจสามารถเดินหน้า เป็นที่รู้จักมากขึ้น เพิ่มยอดขาย เพียงศึกษาและวิธีการทำ SEO ให้ถูกต้อง ตามกฎ ระเบียบของ Search Engine ทำเว็บอย่างสร้างสรรและหมั่นอัปเดทข้อมูลอยู่ตลอดเวลา เชื่อได้ว่าเจ้าของกิจการจะต้องประสบความสำเร็จและสามารถสร้างยอดขายได้ตามเป้าจากการทำ SEO อย่างแน่นอน

เมื่อไหร่ควรทำ SEO และ SEM

Jimbe Allen
19/11/2021
เมื่อไหร่ควรทำ SEO และ SEM

SEO และ SEM เป็นเทคนิคการตลาดออนไลน์ที่นิยมมากในปัจจุบัน โดย SEO คือการทำคุณภาพเว็บไซต์ให้เข้าหลักเกณฑ์ที่ Google กำหนด เพื่อใช้ในการจัดอันดับนำเสนอบนหน้าจอการสืบค้น เว็บไซต์ที่มีค่า SEO สูงก็จะได้รับอันดับที่สูงตามไปด้วย ส่วน SEM คือการซื้อพื้นที่โฆษณาในบริเวณส่วนต้นของหน้าแรก Google

เรามาดูกันว่า เมื่อไหร่ที่เจ้าของเว็บไซต์ควรทำ SEO และ SEM

1.ระยะเวลาเห็นผล
SEO จำเป็นต้องใช้การสะสมของข้อมูลที่ยาวนานกว่า SEM ทั้งด้านการผลิตงานเขียนและภาพประกอบที่มีคุณภาพ การปรับแต่งโครงสร้างเว็บไซต์ การเขียนโค้ดและจัดวางคอลัมน์ต่าง ๆ ให้ใช้งานง่าย อันเป็นที่ประทับใจต่อลูกค้า เหล่านี้เป็นเรื่องที่ต้องใช้เวลาค่อนข้างนานหลายเดือนกว่าจะเห็นผล ส่วน SEM จะช่วยเพิ่มยอดขายอย่างรวดเร็วทันที แต่ SEM ก็มีค่าใช้จ่ายจากการประมูลและการคลิกแต่ละครั้งหรือ PPC ผู้ที่จะทำ SEM จึงต้องพิจารณาถึงความคุ้มทุนในจุดนี้ด้วย

2.คู่แข่งทางการค้า
ในธุรกิจที่เป็นแนว Red Ocean หรือมีการแข่งขันกันสูง ทุกองค์กรต่างทำ SEO เพื่อให้คุณภาพของเว็บไซต์แข่งกันได้ในระยะยาว จะได้เป็นเจ้าครองตลาดอย่างไม่มีใครมาเทียบได้ ถ้าคุณเป็นเจ้าใหม่ในธุรกิจใด ๆ หากทำ SEO อย่างเดียว อาจท้อได้ง่าย เพราะในระยะแรกอาจแทบไม่มีคนคลิกเข้ามาในเว็บไซต์เลย ในที่สุดคุณอาจท้อแท้และเลิกธุรกิจไป ดังนั้น คุณจึงควรทำ SEM ยิงโฆษณาควบคู่ด้วย โดยเฉพาะการเปิดตัวสินค้าใหม่ หรือมีโปรโมชั่นใหม่ ๆ ที่น่าดึงดูดใจ เพื่อกระตุ้นให้ลูกค้าเปิดใจอยากลองใช้สินค้าใหม่ในแบรนด์คุณมากขึ้น

3.ประเภทของสินค้า
ถ้าเป็นสินค้าแนวแฟชั่นหวือหวาตามความนิยมของผู้คน แนะนำให้ทำ SEM เพื่อกระตุ้นการซื้อเช่น ต้นไม้ใบด่างที่ผู้คนนิยมซื้อตามคนดัง เครื่องสำอางที่เซเลบบริตี้เป็นพรีเซนเตอร์ ฯลฯ ควรทำ SEM เกาะกระแสให้ผู้คนซื้อสินค้านั้นผ่านเว็บไซต์คุณในช่วงเวลาสั้น ๆ ก่อนที่คนจะเลิกฮิต ส่วนสินค้าประเภทของใช้อุปโภคบริโภคทุกวัน ได้แก่ ยาสีฟัน ครีมอาบน้ำ แชมพู ฯลฯ เราแนะนำว่าทำ SEO อย่างต่อเนื่องจะดีกว่า เพราะเป็นสิ่งของจำเป็นพื้นฐานของทุกครัวเรือน ที่เราไม่จำเป็นต้องเร่งรีบจำหน่าย แต่ผู้ซื้อมักสนใจที่ความจริงใจในเนื้อหาการนำเสนอที่ไม่เน้นการขายมากเกินไป หรือ hard sale

จะเห็นได้ว่า การทำ SEO และ SEM อยู่บนหลักพื้นฐานแตกต่างกัน ระยะเวลาหวังผลคนละแบบ และเหมาะกับสินค้าแต่ละประเภทต่างกันไป แต่อย่างไรก็สามารถทำเสริมควบคู่กันได้ เพื่อให้บรรลุเป้าหมายของการทำธุรกิจออนไลน์ คือ เพิ่มยอดขายสินค้า ขยายฐานลูกค้า สร้างแบรนด์ให้เป็นที่รู้จักและบอกต่อ เราหวังว่าบทความนี้จะช่วยให้นักธุรกิจออนไลน์ทุกคนประยุกต์ใช้สองแนวทางนี้ได้อย่างดียิ่งขึ้นต่อไป

SEO คืออะไร ต่างจากเครื่องมือทางการตลาดออนไลน์อื่นอย่างไร?

Jimbe Allen
22/10/2021
SEO คืออะไร ต่างจากเครื่องมือทางการตลาดออนไลน์อื่นอย่างไร?

ปัจจุบันเทคโนโลยีมีอิทธิพลต่อการใช้ชีวิตประจำวันของผู้คนเป็นอย่างมาก อย่างน้อยการ work from home ก็ต้องใช้เทคโนโลยีเพื่อให้ธุรกิจเดินต่อได้ เช่น Zoom หรือ MS Team แต่การดำเนินงานภายในก็เรื่องหนึ่ง ส่วนการขับเคลื่อนธุรกิจด้วยลูกค้าก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง ซึ่งองค์กรต้องให้ความสำคัญกับเครื่องมือทางการตลาดออนไลน์ที่ช่วยให้ลูกค้ารู้จักธุรกิจด้วย โดยเครื่องมือที่นิยมใช้คือ SEO และเสริมด้วยเครื่องมือการตลาดออนไลน์อื่นร่วมด้วยซึ่งวันนี้เราจะมาเรียนรู้กัน

การเติบโตของธุรกิจในยุค 4G จะเกิดขึ้นได้จำเป็นต้องอาศัยกลยุทธ์การทำการตลาดออนไลน์เป็นหลักเนื่องจากผู้คนมีการใช้งานสื่อโซเชียลตลอด 24 ชั่วโมง อีกทั้งผู้บริโภคยุคใหม่มีการค้นหาข้อมูลสินค้าหรือบริการรวมถึงเปรียบเทียบคุณสมบัติของสิ่งที่ต้องการบนออนไลน์ที่มีให้ค้นหาได้อย่างไม่สิ้นสุด ดังนั้นหากธุรกิจต้องการอยู่รอดจึงจำเป็นต้องทำให้ผู้บริโภครู้จักแบรนด์ของธุรกิจ มีการสร้างความสัมพันธ์ที่ดีให้ลูกค้าบอกต่อโดยเครื่องมือที่นิยมใช้กันมากที่สุดคือ SEO และยังรวมถึง SEM, SMM ที่ใช้คู่กันด้วย เครื่องมือทางการตลาดออนไลน์ทั้ง 3 ประเภทสนับสนุนกันอย่างไร?

SEO (Search Engine Optimization) คือการสร้างคีย์เวิร์ด (Keyword) ในเว็บไซต์ของธุรกิจเพื่อให้แบรนด์ของธุรกิจได้ถูกค้นพบในอันดับต้น ๆ ของแถบเครื่องมือการค้นหาอย่าง Google, Yahoo หรือ Bing โดยเทคนิคที่จะทำให้เว็บไซต์ของธุรกิจถูกค้นหาได้ง่ายจาก SEO คือการใช้คีย์เวิร์ด (Keyword) สั้น จำง่าย และสอดคล้องกับสินค้าหรือบริการ รวมถึงการใช้เทคนิค SEO off page ด้วยการฝากลิงก์กับเว็บไซต์อื่น ๆ ให้เชื่อมไปสู่หน้าเว็บไซต์ของธุรกิจร่วมด้วย จะได้เป็นการเพิ่มช่องทางให้ผู้บริโภครู้จักธุรกิจได้มากขึ้น สาเหตุที่ธุรกิจส่วนใหญ่นิยมทำ SEO มากที่สุดเพราะไม่มีค่าใช้จ่ายแต่อาจจะเห็นผลความสำเร็จช้าหากคีย์เวิร์ดที่ใช้ไม่ใช่คำนิยมค้นหาหรือหน้าเว็บไซต์ธุรกิจไม่เป็นที่ถูกใจของผู้บริโภค

SEM (Search Engine Marketing) คือการซื้อโฆษณากับ Google หรือคือการทำ Google AdWords เพื่อให้เว็บไซต์ของธุรกิจได้ขึ้นมาอยู่บนหน้าแรก ๆ ของการค้นหาจาก Google สาเหตุที่ควรทำ SEM ร่วมกับ SEO เนื่องจากธรรมชาติของการค้นหาของผู้บริโภคหากข้อมูลที่ต้องการค้นหาตกไปอยู่ในหน้าหลัง ๆ ของ Google ก็จะไม่ได้รับความสนใจ ดังนั้น SEM จึงช่วยเพิ่มโอกาสให้ผู้บริโภคได้รู้จักแบรนด์ของธุรกิจได้มากขึ้น โดยค่าใช้จ่ายจะเกิดขึ้นจากจำนวนคลิกที่มีคนคลิกลิงก์เข้าไปยังหน้าเว็บไซต์ของธุรกิจ

SMM (Social Media Marketing) คือการทำการตลาดบนสื่อสังคมออนไลน์เช่น Facebook หรือ Instagram ซึ่งเป็นเทคนิคต่อเนื่องจากการทำ SEO และ SEM คือเมื่อผู้บริโภคเข้ามาถึงหน้าเว็บไซต์หรือเพจของบริษัทแล้วก็ต้องมีกลยุทธ์ต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็น ลด แลก แจก แถม เพื่อดึงดูดให้ผู้บริโภคเกิดการซื้อ-ขายสินค้าหรือบริการของธุรกิจต่อไป หรือพูดง่าย ๆ ก็คือ SMM เป็นตัวช่วยในการเพิ่มยอดขายของธุรกิจนั่นเอง

พูดได้ว่าด้วยการแข่งขันที่รุนแรงบนโลกออนไลน์ที่มีอิทธิพลต่อการดำเนินชีวิตประจำวันของทุกคน ธุรกิจจึงต้องใช้โอกาสนี้ในการดึงดูดให้ผู้บริโภคได้ทำกิจกรรมกับธุรกิจด้วยเครื่องมือทางการตลาดออนไลน์ทั้ง 3 ประเภทร่วมกันเพื่อให้ธุรกิจสามารถเติบโตบนโลกออนไลน์ได้อย่างยั่งยืน

เคล็ดลับ SEO ทำให้อย่างไรให้คนเข้าเว็บไซต์เพิ่ม

Jimbe Allen
30/08/2021
เคล็ดลับ SEO ทำให้อย่างไรให้คนเข้าเว็บไซต์เพิ่ม

การทำ SEO หมายถึงการเพิ่มประสิทธิภาพเนื้อหาและโครงสร้างของเว็บไซต์เพื่อดึงดูดผู้เข้าชมจำนวนมากขึ้น ปรากฏในผลการค้นหาบ่อยขึ้น และอยู่ในอันดับต้น ๆ ของการค้นหาใน Google เพื่อไม่ให้พลาดยอดขายก่อนคู่แข่ง ในแต่ละปีเว็บไซต์ต้องทำการปรับปรุงเพื่อให้ไม่ให้อันดับเลื่อนลงไปจนผู้ชมมองไม่เห็น หรือต้องเปิดผ่านไปหลายหน้า โดยมีสิ่งที่จะต้องปรับเปลี่ยนหลายอย่าง

เห็นได้ชัดว่าปัจจัยการจัดอันดับ SEO มีการเปลี่ยนแปลงอย่างมากในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ไม่เพียงเพราะเว็บไซต์คู่แข่งเปิดตัวออกมามากขึ้น แต่เทคนิคการเพิ่มประสิทธิภาพกลไกค้นหาก็ยังเปลี่ยนไปด้วย มีคีย์เวิร์ดใหม่ ๆ เข้ามา คำค้นหาที่ตกยุค ขณะเดียวกันหลักการสำคัญยังคงไม่เปลี่ยนแปลง สิ่งแรกที่ต้องเอาใจใส่เป็นพิเศษคือประสบการณ์ของผู้ใช้ ซึ่งเป็นปัจจัยที่มีผลดีต่อการจัดอันดับจาก Google

เจ้าของเว็บไซต์ต้องวิจัยผลสำเร็จของตนเอง ดูว่าผู้ใช้โต้ตอบกับผลการค้นหาอย่างไร ดูคีย์เวิร์ดที่ใช้ค้นหาบ่อย ๆ พร้อมกับการจัดลำดับคำที่ใช้แล้วได้ผลลัพธ์ถูกใจและเข้ามาใช้งานซ้ำอีกจะทำให้อันดับเลื่อนสูงขึ้น เวลาที่ผู้เยี่ยมชมอยู่ในเว็บไซต์นานมากกว่า 3 นาทีเป็นเวลาที่ดี ถ้าคลิกเข้ามาไม่นานแล้วคลิกออกจากเว็บไซต์ทันที จะเกิดผลเสียทำให้อันดับของเว็บไซต์ตกลงไป แสดงให้เห็นว่าประสบการณ์ของผู้ใช้มีอิทธิพลอย่างมากต่อการจัดอันดับ

เมื่อพูดถึงการเพิ่มประสิทธิภาพกลไกค้นหาจะเห็นความสำคัญของคีย์เวิร์ดที่ดีที่สุดและหลากหลาย คีย์เวิร์ดหลักที่เป็นคำสั้นใช้กระจายไปในหน้าต่าง ๆ ในเว็บไซต์ เพราะการใช้คำซ้ำมากเกินไปทำให้เป็นปัญหาและถูกมองว่าเป็นสแปมได้ สำหรับคีย์เวิร์ดยาวจะใช้ในการค้นหาผลลัพธ์แบบเฉพาะเจาะจง ค่อย ๆ ปรับเลือกคำที่เหมาะสมเพื่อตอบโจทย์ความต้องการของผู้ค้นหาได้ตรงจุดที่สุด เมื่อมีคนเข้ามาชมเว็บไซต์และตัดสินซื้อสินค้าที่ถูกใจ เท่ากับเป็นการยิงปืนนัดเดียวได้นกสองตัว

หลังจากเลือกคีย์เวิร์ดได้แล้ว ควรให้ความสำคัญกับคุณภาพของบทความ เนื้อหาบทความมีความชัดเจน กระชับรัดกุม พร้อมกับแทรกคำลงไปในตำแหน่งที่เหมาะสม เลือกคำสั้นและยาวใช้คีย์เวิร์ดอย่างเป็นธรรมชาติ ทำให้กลยุทธ์การทำ SEO มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น นอกจากนี้รูปภาพและวิดีโอเป็นจุดดึงดูดผู้ชมได้ดี เพราะคนจำนวนไม่น้อยเลือกดูวิดีโอความยาว 1 นาที แต่ไม่อดทนอ่านบทความเพียง 100 คำ ทั้งที่ใช้เวลาเท่ากัน การใช้คีย์เวิร์ดในรูปภาพและวิดีโอเป็นการทำ SEO อย่างมีศักยภาพเพื่อให้คนเห็นมากขึ้นและเข้าชมเป็นจำนวนมาก เคล็ดลับสำคัญคือเน้นคุณภาพมากกว่าปริมาณ

สรุปหลักการทำเว็บไซต์ให้ติดอันดับต้น ๆ ต้องขยันศึกษาอัปเดทความรู้ตลอดเวลาเพื่อให้มั่นใจได้ว่าใช้กลยุทธ์ SEO อย่างถูกต้องและเหมาะสมกับปัจจุบันที่สุด สร้างประสบการณ์ผู้ใช้ที่ดีดึงดูดคนจำนวนมาก สร้างโอกาสในการขาย และเพิ่มยอดขายมากขึ้นในอนาคต