5 ปัจจัยสำคัญหากต้องการทำอันดับให้ติดหน้าแรก (SEO)

Jimbe Allen
26/12/2018
5 ปัจจัยสำคัญหากต้องการทำอันดับให้ติดหน้าแรก (SEO)

ปัจจุบันการทำอันดับ (SEO) ในหน้าการค้นหา Google.co.th ไม่ว่าจะเป็นธุรกิจขนาดเล็กหรือใหญ่ต่างก็พากันให้ความสำคัญมากขึ้นเพื่อมุ่งเน้นหาลูกค้าจากโลกอินเตอร์เน็ตโดยการใช้เว็บไซต์หรือแพลทฟอร์มอื่น ๆ เช่น มาร์เก็ตเพลซ ก็มีให้เลือกใช้หลายเจ้า ซึ่งแนวโน้มนี้ก็ไม่ต่างกับจำนวนของผู้ใช้บริการอินเตอร์เน็ตที่มีมากขึ้นในทุก ๆ ปีเช่นเดียวกัน การทำอันดับให้ผู้คนเห็นสินค้าหรือบริการของธุรกิจจึงมีความสำคัญและไม่ควรมองข้ามเป็นอันขาด หากคุณเป็นคนหนึ่งที่กำลังดันกิจการของคุณให้อยู่ในหน้าแรกของ Google ควรศึกษา 5 ปัจจัยนี้ให้ดี

5 ปัจจัยสำคัญหากต้องการทำอันดับให้ติดหน้าแรก SEO

1. การสร้างเนื้อหาที่น่าสนใจ – การทำเนื้อหาหรือคอนเทนต์ให้น่าสนใจเป็นเรื่องที่สำคัญที่สุดในยุคอินเตอร์เน็ต เนื่องจากพฤติกรรมของผู้คนส่วนใหญ่เปลี่ยนจากการนั่งดูทีวีหรืออ่านหนังสือมาเป็นการอยู่หน้าจอคอมพิวเตอร์และมาสู่หน้าจอมือถือแทบจะตลอดทั้งวัน การทำเนื้อหาเว็บไซต์หรือเขียนข้อมูลสินค้าของคุณให้มีความน่าสนใจจึงเป็นเรื่องที่ต้องทำ

2. การทำ Onpage และ Offpage – เมื่อทำเนื้อหาให้น่าสนใจแล้วสิ่งต่อมาที่ต้องคู่กันเพื่อที่จะให้ Google รู้จักสินค้าหรือบริการเพื่อดันอันดับให้อยู่หน้าแรกก็คือการปรับ Onpage และ Offpage ยกตัวอย่างเปรียบเทียบง่าย ๆ Onpage คือ หน้าร้านของคุณ ส่วน Offpage ก็คือป้ายโฆษณาของคุณที่ไปติดตามที่ต่าง ๆ แต่ในทางปฏิบัติแล้วการปรับจะมีเงื่อนไขอีกหลายประการซึ่งสามารถศึกษาเพิ่มเติมได้ที่ https://support.google.com/webmasters/answer/7451184

3. ค้นหา Keywords ที่ต้องใช้ – เมื่อคุณมีสินค้าหรือบริการที่ชัดเจนแล้วต้องค้นหา Keywords ที่จะต้องใช้ทำอันดับ เช่น หากคุณขายรองเท้าผู้ชาย คุณก็ควรจะทำอันดับกับคำว่า “รองเท้า” แต่แน่นอนว่าคุณต้องดูคู่แข่งด้วย ถ้าคำว่า รองเท้า นั้นมีคู่แข่งเยอะ คุณลองใช้คำที่ยาวขึ้นหรือศัพท์เทคนิคเรียกกันว่า “Longtail Keywords” ยกตัวอย่างเช่น รองเท้าเกาหลีสำหรับผู้ชาย เพียงเท่านั้นคู่แข่งของคุณก็จะลดลงกว่าเดิมและยังตรงกับกลุ่มลูกค้าเป้าหมายอีกด้วย

4. กระตุ้นความเคลื่อนไหวของเว็บไซต์ – คงไม่มีใครชอบแน่หากเดินเข้ามาในร้านค้าแล้วไม่มีพนักงานต้อนรับหรือไม่มีใครยืนอยู่ในร้านเลย บรรยากาศเงียบเหงา เว็บไซต์ก็เช่นเดียวกันหากคุณไม่สร้างความเคลื่อนไหวด้วยการอัพคอนเทนต์ใหม่ ๆ ลงไป สร้างโพล์โต้ตอบกับลูกค้าและคนทั่วไป การเล่นเกมเพื่อสร้างปฏิสัมพันธ์กับผู้เข้าชมเว็บไซต์ ในที่สุดเว็บไซต์ของคุณก็จะไม่อยู่ในอันดับที่ต้องการเพราะ Google ชอบเว็บไซต์ที่มีการเคลื่อนไหวและต้องเป็นการเคลื่อนไหวที่มีคุณภาพด้วย

5. Mobile Friendly – สิ่งนี้เป็นส่วนที่ขาดไม่ได้เช่นกันคือการปรับปรุงให้เว็บไซต์ของคุณเป็นมิตรกับเครื่องมือสื่อสารทุกรูปแบบ หมายถึงหากคุณมีเว็บไซต์แล้วไม่ว่าลูกค้าหรือคนค้นหาเจอเว็บไซต์ของคุณโดยการใช้คอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะ, มือถือ, แท็บเล็ต, โน็ตบุ๊คหรืออะไรก็ตาม เว็บไซต์ของคุณควรจะแสดงผลให้ดูสมดุลกับอุปกรณ์ ไม่ล้นไปทางไหนทางหนึ่ง ไม่ใหญ่หรือเล็กเกินไป

5 ปัจจัยสำคัญหากต้องการทำอันดับให้ติดหน้าแรก

ทั้ง 5 ปัจจัยนี้เป็นส่วนสำคัญที่ทำให้อันดับอยู่ในหน้าแรกได้ง่ายขึ้นและมีผลทางตรงกับผู้เข้าชมหรือกลุ่มลูกค้าที่ต้องการสั่งซื้ออยู่แล้ว เข้ามาพิจารณาสินค้าและบริการของคุณในเว็บไซต์ ช่วยให้ปิดการขายได้ง่ายขึ้น

สิ่งที่คุณจะพลาด หากไม่ทำเว็บไซต์ SEO

สิ่งที่คุณจะพลาด หากไม่ทำเว็บไซต์ SEO

สิ่งที่คุณจะพลาด หากไม่ทำเว็บไซต์ SEO

SEO คือสิ่งสำคัญหากคุณอยากเด่นอยู่ในตลาด

ต้องยอมรับความจริงว่าโลกปัจจุบันนั้นได้เปลี่ยนแปลงไปแล้ว หากสังเกตดูเด็กยุคใหม่ พวกเขาจะสามารถใช้เครื่องมือเครื่องไม้ที่ทันสมัยได้ตั้งแต่อายุยังเล็ก ซึ่งเมื่อคนรุ่นเก่ามองลงไปแล้วเปรียบเทียบกับยุคของตนเอง คุณจะรู้สึกถึงความเปลี่ยนแปลงที่น่าอัศจรรย์ใจนี้ สิ่งที่ต้องทำให้ได้คือการยอมรับและก้าวไปกับโลก ดังนั้น หากคุณอยากจะทำธุรกิจแล้วไม่พลาด อย่าลืมที่จะก้าวตามโลกให้ทัน เว็บไซต์และการกระตุ้นการเคลื่อนไหวของเว็บด้วยการทำ SEO จึงเป็นเรื่องสำคัญที่จะช่วยให้ธุรกิจของคุณประสบความสำเร็จได้อีกทางหนึ่ง แน่นอนว่ามันมีผลกระทบอย่างสูงเลยทีเดียว

สิ่งที่คุณจะพลาด หากไม่ทำเว็บไซต์ SEO

ปัจจุบันต้องยอมรับว่า การทำเว็บไซต์ให้เข้าสู่ระบบ SEO เพื่อการขายสินค้าและบริการผ่านช่องทางออนไลน์ เป็นวิธีการส่งเสริมการขายที่ทรงอิทธิพลมาก แต่หลายคนก็ยังไม่แน่ใจในศักยภาพของระบบ SEO ว่าจะมีความคุ้มค่ามากน้อยเพียงใด เนื่องจากต้องเสียค่าใช้จ่ายรายหกเดือนหรือรายปีเป็นอย่างน้อยในการจ้างทำ และยังไม่สามารถการันตีได้ 100 เปอร์เซ็นต์ว่าจะเพิ่มยอดขายได้มากน้อยแค่ไหน เราจึงได้รวบรวมสิ่งที่คุณจะพลาดไปถ้าไม่พัฒนาเว็บไซต์เข้าสู่ระบบ SEO มาฝากกัน ดังนี้

ขาดโอกาสเพิ่ม traffic หรือยอดจำนวนผู้เข้ามาอ่านบทความ

รวมถึงหาข้อมูลด้านสินค้าอื่น ๆ ในเว็บไซต์ของคุณ ซึ่งเท่ากับว่าคุณจะเสียโอกาสในการขายไปด้วย ซึ่งมันก็จะส่งผลถึงการโปรโมตเว็บไซต์ตัวเอง เพราะการจัดอันดับของ search engine จะดูที่คุณภาพของบทความเป็นองค์ประกอบใหญ่อย่างหนึ่งด้วย หากไม่มีบทความ SEO เท่ากับขาดดาต้าที่จะไปวิเคราะห์เพื่อ ranking อันดับนั่นเอง

คุณจะพลาด หากไม่ทำเว็บไซต์ SEO

อันดับสืบค้นต่ำลง

เมื่อขาดบทความ SEO จะทำให้อันดับในกูเกิ้ลต่ำลง จึงขาดโอกาสที่ดีในการพบปะกับลูกค้ากลุ่มเป้าหมายที่ต้องการซื้อสินค้าและบริการในขณะนั้น เพราะคุณไม่อยู่ในทำเลที่จะสืบค้นเจอได้ง่ายและไปลดทอนศักยภาพในการแข่งขันกับคู่แข่งเจ้าอื่นในไลน์การผลิตและจำหน่ายสินค้าแบบเดียวกัน โดยเฉพาะการแข่งขันด้านงานบริการอย่าง การโรงแรม การท่องเที่ยว ซึ่งเป็นธุรกิจที่มีการแข่งขันกันสูง

ขาดโอกาสได้ลูกค้ากลุ่มใหญ่จากทั่วโลกแบบ worldwide

เพราะหนทางการพบเจอกันของผู้ทำธุรกิจกับลูกค้านั้นเปลี่ยนไป เชื่อหรือไม่ว่าในปัจจุบันเราสามารถหาลูกค้ากลุ่มใหญ่ รวมถึงกลุ่มลูกค้า Oversea หรือลูกค้าต่างประเทศหรือกลุ่มลูกค้าจากทั่วโลกได้จากอินเตอร์เนท เพียงแต่คุณจะต้องสร้างความเชื่อมั่นให้เขารู้จักตัวตนของคุณอย่างแท้จริง เมื่อคุณพลาด ไม่ยอมทำ SEO แน่นอนว่าสิ่งที่คุณจะพลาดก็คือกลุ่มลูกค้าใหม่ ๆ แบบ Worldwide ซึ่งถือเป็นลูกค้ากลุ่มใหญ่จริง ๆ

ไม่สามารถรักษาลูกค้าเดิมไว้ได้

อย่าลืมว่าในขณะที่เราไม่ได้ทำ SEO ก็ยังมีบริษัทอื่นๆที่ทำธุรกิจแบบเดียวกับเราเร่งมือสร้างเว็บไซต์และดัน SEO เพื่อให้เกิดโอกาสในการพบปะลูกค้า ซึ่งนั่นอาจจะหมายถึงลูกค้าที่เป็นลูกค้าของเราก็ได้ หากลูกค้าเราได้เข้าถึงข้อมูลข่าวสารจากบริษัทอื่นมากกว่า ทั้งการมีโปรโมชั่นมาล่อใจ มันจึงไม่ใช่เรื่องยากเลยหากคุณปล่อยปละละเลยความสำคัญของการทำ SEO แล้วฝ่ายตรงข้ามก็สามารถคว้าเอาลูกค้าของคุณไปเป็นลูกค้าของเขาได้ในที่สุด

และทั้งหมดนี้ก็คือสิ่งที่คุณจะพลาดหากไม่นำระบบ SEO มาปรับใช้กับเว็บไซต์ของคุณ เราหวังว่าบทความนี้จะช่วยเสริมความมั่นใจและแสดงให้เห็นว่ารายจ่ายในการจ้างจะถูกชดเชยด้วยโอกาสทางธุรกิจและกำไรของบริษัทในระยะยาวอย่างที่คุณพอใจ

สิ่งที่พลาด-หากไม่ทำเว็บไซต์-SEO

ทำไมบล็อก เป็นสิ่งสำคัญสำหรับการทำ SEO

ทำไมบล็อก เป็นสิ่งสำคัญสำหรับการทำ SEO

การเขียนบทความในบล็อกเป็นการเขียนเล่าเรื่องราวให้เข้าใจง่าย มีเหตุผลหลายประการว่าทำไมการเขียนบล็อกจึงมีความสำคัญต่อธุรกิจของคุณ การเขียนช่วยให้คุณเป็นผู้นำทางความคิด สร้างความไว้วางใจและเพิ่มความน่าเชื่อถือ นอกจากนั้นยังช่วยสร้างความสัมพันธ์และมีส่วนร่วมกับผู้อ่านได้ สามารถสร้างความโดดเด่นแตกต่างจากคู่แข่งในแวดวงเดียวกัน

ประโยชน์ข้อหลักของการทำบล็อก

คือช่วยเพิ่มประสิทธิภาพของเครื่องมือค้นหาให้เว็บสินค้าของคุณติดอันดับดีขึ้นได้ การปรับปรุงเนื้อหาบทความให้ดีขึ้นเท่าไร หน้าเว็บของคุณจะปรากฏในหน้าผลลัพธ์ของเครื่องมือค้นหามากขึ้น เพื่อให้ผู้ค้นหาเห็นเว็บไซต์และเข้ามาอ่าน ทำความรู้จักกับธุรกิจของคุณมากขึ้น เปรียบเทียบสถิติการเข้าชม จะเห็นว่าธุรกิจที่เขียนบล็อกมักมีผู้เข้าชมมากเป็นสองเท่าของธุรกิจที่ไม่ได้เขียนบล็อก

สิ่งสำคัญจริงๆ คือการเขียนบทความให้น่าอ่าน ทำให้คนติดตามและเข้าชมเว็บสม่ำเสมอ อย่าให้ความสำคัญกับการจัดอันดับในเครื่องมือค้นหามากที่สุด เพราะธุรกิจต้องการยอดขายและความเติบโตอย่างยั่งยืน ไม่ใช่หยุดอยู่แค่ยอดกดไลค์กดแชร์แล้วจากไป มีการใส่คีย์เวิร์ดที่เหมาะสม จำนวนไม่มากไม่น้อย โพสต์เนื้อหาใหม่บนเว็บไซต์อย่างน้อยสัปดาห์ละ 1-2 บทความ

เว็บไซต์ที่มีการอัปเดตบ่อยๆ แสดงให้เห็นว่าเว็บไซต์มีข้อความใหม่ ไม่ล้าสมัย เครื่องมือค้นหาจะนำมาเป็นปัจจัยในการจัดอันดับที่ดีขึ้น เพราะกูเกิลไม่ต้องการแสดงรายการหน้าเว็บที่ล้าสมัยเพื่อให้ผู้ใช้ได้รับข้อมูลข่าวสารใหม่ๆ ตลอดเวลา ดังนั้นจึงต้องโพสต์เนื้อหาล่าสุดและเนื้อหาใหม่บ่อยๆ เพื่อให้มั่นใจว่าการทำ SEO จะมีประโยชน์มากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ เว็บไซต์ที่ไม่ค่อยมีคนเข้าใช้เพราะพื้นที่เว็บมีแต่ประวัติบริษัทที่ข้อมูลไม่เปลี่ยนแปลง รายละเอียดของสินค้าและราคาที่ไม่ค่อยเปลี่ยนแปลง บางเว็บอาจอัปเดตเนื้อหาหน้าแรกสองสามครั้งต่อปีเป็นอย่างมากที่สุด การเขียนบล็อกเพื่อให้มีบทความลงโพสต์บ่อยขึ้นทำให้เว็บไซต์เกิดการเปลี่ยนแปลง ซึ่งจะมีประโยชน์ต่อการทำ SEO และมีผลต่อการจัดอันดับของเครื่องมือค้นหาด้วย

เพราะเหตุนี้ ทุกเว็บธุรกิจออนไลน์ จำเป็นต้องมี Blog

ธุรกิจที่กำลังวางแผนการตลาดออนไลน์จึงต้องทำบล็อกเพื่อโพสต์ข้อความใหม่ๆ ในเว็บไซต์ได้อย่างต่อเนื่อง จะโพสต์วันละหลายครั้งต่อวันก็ได้ แล้วแต่ความพอใจ ยิ่งโพสต์เนื้อหาสดใหม่ขึ้นหน้าเว็บ ยิ่งมีผลต่อการทำ SEO เครื่องมือค้นหาจะเลื่อนอันดับขึ้นมีโอกาสที่จะได้อยู่ในหน้าแรกของผลการค้นหาจากกูเกิล นอกจากการใช้คีย์เวิร์ดที่เหมาะสมในทุกบทความที่โพสต์แล้ว การใช้รูปภาพในบทความมีผลต่อการจัดอันดับของกูเกิลด้วย ควรตั้งชื่อรูปภาพและบรรยายภาพที่เกี่ยวข้องกับคีย์เวิร์ดในบทความเพื่อประโยชน์ในการใช้รูปภาพลงในบล็อก

อีกส่วนคือการทำ Backlink สร้างความสัมพันธ์กับองค์กรและเว็บไซต์อื่นๆ การเขียนบล็อกทำให้คุณมีโอกาสเชื่อมโยงลิงก์ไปยังเว็บไซต์อื่นที่เกี่ยวข้อง มีการแลกเปลี่ยนลิงก์กันเพื่อให้มีผู้ติดตามเข้าชมเว็บของคุณมากขึ้น สิ่งสำคัญคือพิจารณาเลือกสร้างความสัมพันธ์กับเว็บไซต์ที่มีชื่อเสียง คุณภาพสูงและมีความเกี่ยวข้องกับผลิตภัณฑ์สินค้าของคุณไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง อย่าละเลยเรื่องการเชื่อมโยงบล็อกของคุณกับบัญชีโซเชียลมีเดีย เช่น เฟซบุ๊ก อินสตาแกรม จะเพิ่มจำนวนผู้เข้าชมเว็บสูงกว่าที่คาดหมายไว้เสียอีก

ปัญหาคาใจ ใส่คีย์เวิร์ดอย่างไร SEO จึงประสบความสำเร็จ

ทุกวันนี้การทำ SEO เป็นที่พูดถึงกันมากและแพร่หลาย หลายคนแนะนำร้านค้าออนไลน์ใช้บริการรับทำ SEO เชื่อว่าจะทำให้อันดับการค้นหาสินค้าและบริการในกูเกิ้ลดีขึ้น ด้วยการใช้คีย์เวิร์ดที่คนสนใจ จะทำให้การค้นหาของลูกค้าเข้ามาเชื่องโยงกับเว็บของคนขายมากขึ้น เพิ่มจำนวนคนเข้าดูมากเท่าไร ก็มีโอกาสปิดยอดขายได้มากขึ้นเท่านั้น … เมื่อรู้ข้อดีของการติดอันดับต้นๆ แล้วและเริ่มอยากทำ SEO ขึ้นมาบ้าง แต่ยังไม่ทราบว่าควรจะเลือกคีย์เวิร์ดอะไรเพื่อทำให้คนค้นหามาเจอสินค้าของเรา ถ้าเขียนคอนเทนต์เองไม่เป็น สามารถจ้างบริษัทรับทำบทความเพื่อการตลาดออนไลน์ได้ แต่ต้องใช้บทความแนวไหนบ้าง จะโฆษณาขายของอย่างเดียว หรือเสริมคอนเทนต์ทั่วไปที่ลูกค้าสนใจอ่าน จะแบ่งสัดส่วนบทความทั้งสองแบบอย่างไร คำถามสุดท้ายสำคัญที่สุดคือจะเลือกคีย์เวิร์ดอย่างไร ในเมื่อมีคีย์เวิร์ดหลายตัวมากให้เลือกทำและควรใส่คีย์ในบทความปริมาณเท่าใด ใส่คีย์เวิร์ดกี่ครั้งจึงจะเหมาะสม

คำตอบและการวางแผนของเหล่า SEO

ก่อนอื่นเราต้องวางแผนโครงสร้างเว็บไซต์ในส่วนของคอนเทนต์ ซึ่งแบ่งออกเป็น 3 แบบหลัก คือ 1.รายละเอียดของสินค้าและบริการ 2.ความรู้ทั่วไปที่เป็นประโยชน์ 3.เนื้อหาที่แฝงโฆษณาจูงใจ โดย 2 แบบแรกจะเน้นประมาณ 80% ของคอนเทนต์ทั้งหมดที่มีอยู่ในเว็บไซต์ ส่วนโฆษณาขายของเป็นส่วนที่เหลือ 20% สำหรับการทำ SEO เราเลือกใส่คีย์เวิร์ดที่เป็นหัวใจหลักของสินค้า โดยจะมีคีย์หลักและคีย์รองลดหลั่นไปตามลำดับ เช่น ขายเครื่องใช้ไฟฟ้าในครัวประเภทหม้อสุกี้ , เตาย่างบาบีคิว , กระทะไฟฟ้า , เตาปิ้งย่าง , หม้อหุงข้าว , หม้อนึ่ง เริ่มจากคีย์เวิร์ดหลักคือ ‘เครื่องใช้ไฟฟ้าในครัว’ จากนั้นจะขยายความเป็นคีย์เวิร์ดรอง เช่น “เครื่องใช้ไฟฟ้าในครัว หม้อสุกี้” หรือ “เครื่องใช้ไฟฟ้าในครัว เตาย่างบาบีคิว” อาจจะตามด้วยคีย์เวิร์ดอื่นๆ อย่าง “หม้อนึ่ง ตัดไฟอัตโนมัติ” หรือ “เตาย่างอเนกประสงค์ พร้อมหม้อสุกี้” เป็นคีย์เวิร์ดที่โยงใยคำค้นหาของผู้ใช้งานอินเทอร์เน็ตมาจับคู่กับสินค้าของเราโดยตรง ส่งผลให้ลูกค้าคลิกเข้าหาเว็บไซต์ขายสินค้าของเรามากกว่าเว็บอื่นๆ

ปัญหาของการทำคอนเทนต์ใส่ในเว็บไซต์ คือ เลือกจับคีย์เวิร์ดตัวใดตัวหนึ่งมาใส่ ขอเพียงให้ตรงกับสินค้าและบริการโดยไม่ได้คำนึงถึงกลุ่มเป้าหมายว่าต้องการอะไรกันแน่ ทำให้ผู้ที่เข้ามาอ่านไม่ได้สิ่งที่คาดหวังจากคอนเทนต์ เจออย่างนี้บ่อยๆ ก็ไม่กลับมาอ่านซ้ำอีก แม้เราจะอัพเดทบทความบ่อยแค่ไหนก็ตาม จึงเป็นหน้าที่ของเว็บขายของซึ่งจ่ายเงินซื้อคอนเทนต์และจ้างทำ SEO ไปแล้วต้องใช้ให้คุ้มค่า อย่างน้อยควรแจ้งรายละเอียดเพื่อตีกรอบเนื้อหาบทความที่ต้องการอย่างชัดเจน ทำให้การเขียนบทความอ้างอิงไปยังตัวสินค้าได้ถูกต้อง แทรกคำคีย์เวิร์ดเข้าไปอย่างแนบเนียน จำนวน 2-4 คำ ต่อบทความ วางแผนใส่แบบกระจายในเนื้อหา ทำให้คนหาเว็บไซต์ของเราได้ง่ายขึ้น

การใส่คียเวิร์ด SEO

ความจริงแล้วไม่ใช่วิธีการยากเย็นอะไรสำหรับผู้ที่เขียนบทความทำ SEO เป็นประจำ แต่การแข่งขันในภาวะเศรษฐกิจอย่างนี้ต้องเพิ่มศักยภาพของตัวเองให้ไปไกลจากคู่แข่งมากที่สุด เทคนิคง่ายๆ คือเข้าไปสำรวจตลาดว่าคู่แข่งมีดีอย่างไร เราต้องทำให้เหนือกว่าและต้องทำตามแผนที่วางเอาไว้โดยจะต้องมีการปรับตัวให้ทันโลกตลอดเวลาด้วย เรามีดีอะไร ทำให้ดียิ่งขึ้น พร้อมกับออกแบบเว็บให้ใช้งานง่าย เนื้อหากระชับพอดีและโหลดเร็วบนมือถือ เพราะเราไม่ได้ต้องการแค่อยู่รอดเท่านั้น ต้องมีกำไรให้ต่อยอดไปข้างหน้าด้วย จึงจะถึงเป้าหมายความสำเร็จได้อย่างที่ตั้งใจ ทำให้ดีสุดกำลังไม่ว่าจะอยู่ในช่วงวิกฤตหรือโอกาสก็ตาม

SEO On pageหนึ่งในขั้นตอนการทำ SEO ที่ขาดไม่ได้

SEO On pageหนึ่งในขั้นตอนการทำ SEO ที่ขาดไม่ได้

ในส่วนของวิธีการทำ SEO ถือได้ว่ามีหลากหลายวิธี หลากหลายขั้นตอนถึงแม้ว่าจะพูดถึงการทำ SEO เบื้องต้นก็ตาม ทุกอย่างย่อมมีกระบวนการทำที่ค่อนข้างจะละเอียด โดยเฉพาะหลักในการทำ SEO แบบสากลนั้น กระบวนการทำย่อมถูกแบ่งออกเป็น 2 ช่องทางใหญ่ ๆ และยังคงมีเนื้อหาแยกย่อยอีกมากมายนับไม่ถ้วน หากใครได้ศึกษาหรือติดตามเรื่องการทำ SEO ย่อมรู้กันเป็นอย่างดีอยู่แล้วว่า การทำ SEO ให้ประสบความสำเร็จนั้นนับได้ว่าไม่ใช่เรื่องง่าย และจะต้องอาศัยความเข้าใจที่แท้จริงเข้าช่วยเสมอ ซึ่งในวันนี้เราจะมาพูดถึงประเด็นหนึ่งในขั้นตอนการทำ SEO ซึ่งถือได้ว่าเป็นขั้นตอนที่ขาดไม่ได้นั่นก็คือ การทำ SEO On page โดยมีรายละเอียดดังนี้

1. Content จะต้องเกี่ยวข้องกับ Keyword

การทำ SEO ให้ดีและมีประสิทธิภาพ จำเป็นจะต้องอาศัย Content ที่ดีและมีคุณภาพเข้ามาช่วยเหลือยิ่งถ้าหาก Content มีความเกี่ยวข้องกับคีย์เวิร์ดและคำที่เกี่ยวข้องด้วยแล้ว ย่อมส่งผลดีต่อการทำ SEO อย่างแน่นอน แต่ทุกอย่างจะต้องมีความเป็นธรรมชาติอย่างขีดสุดร่วมด้วย

2. ปรับแต่งเว็บให้ดูดีและมีประโยชน์

เว็บไซต์ที่คิดจะทำ SEO แล้วประสบความสำเร็จจะต้องทำการปรับแต่งเว็บไซต์ของตนเองให้ดูดีและมีประโยชน์พร้อมทั้งทำให้เว็บไซต์ของคุณมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้นหลัก ๆ ก็ยังคงต้องอาศัยคอนเทนต์ที่ดีอีกเช่นเดียวกัน หากมีประโยชน์และน่าติดตามอย่างแท้จริง ย่อมเป็นที่น่าสนใจอย่างต่อเนื่อง

3. ประสบการณ์การใช้งานของผู้ใช้เว็บ ย่อมมีความสำคัญ

ในส่วนนี้ต้องขอบอกเลยว่า User Experience ถือได้ว่ามีความสำคัญอย่างมากสำหรับการทำ SEOโดยเฉพาะถ้าหากเว็บไซต์ไหนสามารถสร้างประสบการณ์ที่ดีให้กับผู้ใช้ได้ ย่อมที่จะทำให้ผู้ใช้กลับมาเสพเนื้อหาภายในเว็บไซต์ได้อย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้ User Interface ก็ยังคงมีความสำคัญไม่น้อยหน้ากัน เพราะถ้า UI ของทางเว็บไซต์มีลักษณะที่ใช้งานได้ยาก ก็จะส่งผลทำให้ผู้ใช้งานส่วนใหญ่เกิดความสับสน ตลอดจนกระทั่งไม่สามารถทำในสิ่งที่ทางด้านเจ้าของเว็บต้องการหรือคาดหวังได้

และทั้งหมดนี้ก็คือการทำ SEO On pageซึ่งเปรียบเสมือนเป็นการตกแต่งเว็บไซต์จากภายใน เพื่อที่จะสามารถเพิ่มประสิทธิภาพให้กับเว็บไซต์ได้อย่างมั่นคงยิ่งถ้าหากเว็บไซต์ไหนสามารถแสดงตัวตนของตนเองออกมาได้ดีที่สุด ย่อมเป็นที่สะดุดตาของ google ได้อย่างแน่นอน แถม google ก็ยังคงรู้แน่ชัดด้วยว่า เว็บไซต์ของคุณนั้นต้องการทำเนื้อหาเกี่ยวกับอะไร มีประโยชน์อย่างแท้จริงหรือไม่และนี่ก็คือส่วนสำคัญที่ทำให้คุณสามารถเข้าใจและมองเห็นความสำคัญของการทำ SEO On page ได้ทันที

มือใหม่กับการทำ SEO ด้วยตัวเองกับขั้นตอนเบื้องต้นแบบง่ายๆ

มือใหม่กับการทำ SEO

สำหรับคนที่ต้องการทำ SEO ด้วยตัวเองไม่ว่าเว็บไซด์จะเป็นแนวไหนแต่พื้นฐานการทำ SEO จะคล้ายๆกันสิ่งที่มือใหม่ต้องสนใจและทำความรู้กันแบบคร่าวๆ เพื่อเริ่มต้นคือ

วางแผนในการทำ SEO เพราะการวางแผนจะเป็นกำหนดทิศทางตั้งแต่เริ่มเว็บไซด์และกำหนดหัวข้อต่างๆในเว็บและทำให้เราเลือกคีย์เวิร์ดในการทำ SEO ได้ง่ายขึ้นกว่าการไม่มีแผนและไม่มีแนวทาง เพราะแผนจะทำให้เราเดินไปในทิศทางที่ถูกต้องแต่แผนที่เราวางนั้นต้องสามารถสับเปลี่ยนหรือปรับปรุงได้ตามความเหมาะสม

มือใหม่กับการทำ SEO ง่ายๆ

ศึกษาโซเชี่ยล แน่นอนว่าเป้าหมายหลักในการให้คนรู้จักเว็บและช่วยในการทำ SEO คือโซเชี่ยลต่างๆเราต้องรู้ก่อนว่าธรรมชาติของแต่ละโซเชี่ยลเป็นแบบไหนและจัดแผนการโปรโมทให้เหมาะสมกับแต่ละโซเชี่ยลที่ใช้เพื่อที่เมื่อทำการโปรโมทไปแล้วจะเข้าถึงคนกลุ่มใหญ่หรือกลุ่มที่ต้องการได้เร็วและตรงเป้าหมาย

คอนเทนต์ใหม่สด ตัวขับเคลื่อน นี่คือความสำคัญที่ละเลยไม่ได้เราต้องมีการอัพเดทข้อมูลหรือ คอนเทนต์ให้เว็บมีความเคลื่อนไหวอย่างน้อยวันละ 1 คอนเทนต์ หรือสัปดาห์ละ 3-5 คอนเทนต์ เพื่อให้ boot มาจับคีย์เวิร์ดและทำให้เว็บเราติดอันดับไวขึ้น

มือใหม่กับการทำ SEO ด้วยตัวเองกับขั้นตอนเบื้องต้นแบบง่ายๆ

การแลกลิงค์แน่นอนว่าเป็นวิธีที่ง่ายและหมือนการผูกมิตรและเป็นการประกาศให้คนรู้จักและการแลกลิงค์นั้นก็ต้องดูว่าเว็บไหนบ้างที่เราสามารถนำไปวางได้ หรือแทรกคีย์เวิร์ดฝังลิงค์ให้คนคลิ๊กกลับมาหาเราได้

การออกแบบเว็บและธีม ควรเลือกให้เหมาะสมเช่นดูสะอาดตา เนื้อหาอ่านง่าย ไม่รกหรือเต็มไปด้วยแบนเนอร์และป้ายโฆษณาต่างๆ การเลือกธีมให้รองรับ SEO ก็เป็นอีกส่วนที่ทำให้ติดอันดับได้แต่ที่สำคัญคือต้องดูดีน่าคลิ๊กเข้ามาอ่านไม่จำเป็นต้องลูกเล่นเยอะ แต่เน้นให้สบายตา อ่านง่ายและมีคุณภาพแค่นี้ก็พอแล้ว

พื้นฐานการทำ SEO

การใส่ลายเซ็นต์หรือ Signature อันนี้ก็ช่วยให้คนรู้จักเว็บเราได้ไม่ว่าจะไปโพสตามบอร์ดหรือที่อื่นและอีเมล์ ที่เราสามารถใช้ลายเซ็นต์หรือ Signatureได้ก็ควรทำเพื่อเป็นการโปรโมทอีกช่องทาง

วางแผนในการทำ SEO

ไม่ยากใช่ไหมกับหกข้อที่เราแนะนำสำหรับมือใหม่ที่สนใจทำ SEO ด้วยตัวเองรับรองว่าไม่ยากและสามารถศึกษาข้อมูลต่างๆเพิ่มเติมได้ที่นี่เพราะเรามีสอนการทำ SEO ด้วยตัวเองแบบง่ายๆ ที่ใครๆก็สามารถทำได้และสามารถต่อยอดไปได้อีกไกลหากสนใจและมีความสนใจได้ด้านนี้รวมถึงการศึกษาข้อมูล SEO เชิงลึกเพื่อพัฒนาความสามารถให้เพิ่มขึ้น หากสนใจและตั้งใจเราเชื่อว่าใครๆก็เริ่มต้นทำ SEO ได้ด้วยตัวเอง