เมื่อไหร่ควรทำ SEO และ SEM

เมื่อไหร่ควรทำ SEO และ SEM
Jimbe Allen
19/11/2021

SEO และ SEM เป็นเทคนิคการตลาดออนไลน์ที่นิยมมากในปัจจุบัน โดย SEO คือการทำคุณภาพเว็บไซต์ให้เข้าหลักเกณฑ์ที่ Google กำหนด เพื่อใช้ในการจัดอันดับนำเสนอบนหน้าจอการสืบค้น เว็บไซต์ที่มีค่า SEO สูงก็จะได้รับอันดับที่สูงตามไปด้วย ส่วน SEM คือการซื้อพื้นที่โฆษณาในบริเวณส่วนต้นของหน้าแรก Google

เรามาดูกันว่า เมื่อไหร่ที่เจ้าของเว็บไซต์ควรทำ SEO และ SEM

1.ระยะเวลาเห็นผล
SEO จำเป็นต้องใช้การสะสมของข้อมูลที่ยาวนานกว่า SEM ทั้งด้านการผลิตงานเขียนและภาพประกอบที่มีคุณภาพ การปรับแต่งโครงสร้างเว็บไซต์ การเขียนโค้ดและจัดวางคอลัมน์ต่าง ๆ ให้ใช้งานง่าย อันเป็นที่ประทับใจต่อลูกค้า เหล่านี้เป็นเรื่องที่ต้องใช้เวลาค่อนข้างนานหลายเดือนกว่าจะเห็นผล ส่วน SEM จะช่วยเพิ่มยอดขายอย่างรวดเร็วทันที แต่ SEM ก็มีค่าใช้จ่ายจากการประมูลและการคลิกแต่ละครั้งหรือ PPC ผู้ที่จะทำ SEM จึงต้องพิจารณาถึงความคุ้มทุนในจุดนี้ด้วย

2.คู่แข่งทางการค้า
ในธุรกิจที่เป็นแนว Red Ocean หรือมีการแข่งขันกันสูง ทุกองค์กรต่างทำ SEO เพื่อให้คุณภาพของเว็บไซต์แข่งกันได้ในระยะยาว จะได้เป็นเจ้าครองตลาดอย่างไม่มีใครมาเทียบได้ ถ้าคุณเป็นเจ้าใหม่ในธุรกิจใด ๆ หากทำ SEO อย่างเดียว อาจท้อได้ง่าย เพราะในระยะแรกอาจแทบไม่มีคนคลิกเข้ามาในเว็บไซต์เลย ในที่สุดคุณอาจท้อแท้และเลิกธุรกิจไป ดังนั้น คุณจึงควรทำ SEM ยิงโฆษณาควบคู่ด้วย โดยเฉพาะการเปิดตัวสินค้าใหม่ หรือมีโปรโมชั่นใหม่ ๆ ที่น่าดึงดูดใจ เพื่อกระตุ้นให้ลูกค้าเปิดใจอยากลองใช้สินค้าใหม่ในแบรนด์คุณมากขึ้น

3.ประเภทของสินค้า
ถ้าเป็นสินค้าแนวแฟชั่นหวือหวาตามความนิยมของผู้คน แนะนำให้ทำ SEM เพื่อกระตุ้นการซื้อเช่น ต้นไม้ใบด่างที่ผู้คนนิยมซื้อตามคนดัง เครื่องสำอางที่เซเลบบริตี้เป็นพรีเซนเตอร์ ฯลฯ ควรทำ SEM เกาะกระแสให้ผู้คนซื้อสินค้านั้นผ่านเว็บไซต์คุณในช่วงเวลาสั้น ๆ ก่อนที่คนจะเลิกฮิต ส่วนสินค้าประเภทของใช้อุปโภคบริโภคทุกวัน ได้แก่ ยาสีฟัน ครีมอาบน้ำ แชมพู ฯลฯ เราแนะนำว่าทำ SEO อย่างต่อเนื่องจะดีกว่า เพราะเป็นสิ่งของจำเป็นพื้นฐานของทุกครัวเรือน ที่เราไม่จำเป็นต้องเร่งรีบจำหน่าย แต่ผู้ซื้อมักสนใจที่ความจริงใจในเนื้อหาการนำเสนอที่ไม่เน้นการขายมากเกินไป หรือ hard sale

จะเห็นได้ว่า การทำ SEO และ SEM อยู่บนหลักพื้นฐานแตกต่างกัน ระยะเวลาหวังผลคนละแบบ และเหมาะกับสินค้าแต่ละประเภทต่างกันไป แต่อย่างไรก็สามารถทำเสริมควบคู่กันได้ เพื่อให้บรรลุเป้าหมายของการทำธุรกิจออนไลน์ คือ เพิ่มยอดขายสินค้า ขยายฐานลูกค้า สร้างแบรนด์ให้เป็นที่รู้จักและบอกต่อ เราหวังว่าบทความนี้จะช่วยให้นักธุรกิจออนไลน์ทุกคนประยุกต์ใช้สองแนวทางนี้ได้อย่างดียิ่งขึ้นต่อไป